การพิจารณาคดี ของ จอร์จ สตินนีย์

กระบวนพิจารณาทั้งหมด ซึ่งรวมถึง การเลือกลูกขุน ใช้เวลาเพียงหนึ่งวัน ลูกขุนที่ได้รับเลือกเป็นคนผิวขาวทั้งหมด ระหว่างพิจารณา คนผิวขาวกว่า 1,000 คนออกันอยู่ในห้องพิจารณา แต่คนผิวดำไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาแม้แต่คนเดียว[5]

ศาลตั้งชาลส์ พลาวเดน (Charles Plowden) นักการเมืองซึ่งกำลังหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นอยู่ เป็นทนายความฝ่ายจำเลย พยานหลักฐานชิ้นเดียวในคดี คือ คำให้การของเจ้าพนักงานตำรวจสามนายที่ระบุว่า สตินนีย์รับสารภาพเรียบร้อยแล้ว และพลาวเดนไม่คัดค้านการใช้พยานหลักฐานนี้เอาผิดสตินนีย์ อนึ่ง พลาวเดนยังไม่คัดค้านที่โจทก์นำเสนอข้อความสองฉบับที่อ้างว่า มาจากคำให้การด้วยวาจาของสตินนีย์ แม้ข้อความทั้งสองจะแย้งกันเอง โดยฉบับหนึ่งว่า เขารับว่า เด็กหญิงหนึ่งในสองคนนั้นตกหล่ม เขาเข้าไปช่วย แต่เด็กหญิงทั้งสองทำร้ายเขา เขาจึงกระทำตอบโต้เป็นเชิงป้องกันตัว ส่วนอีกฉบับว่า เขารับว่า เขาสะกดรอยตามเด็กหญิงทั้งสองไป แล้วฆ่าแมรีเป็นคนแรก ตามด้วยเบตตีเป็นคนที่สอง นอกเหนือไปจากนี้แล้วก็ไม่มีวัตถุพยานที่เชื่อมโยงเขาเข้ากับเหตุการณ์อีก[4]

ฝ่ายโจทก์นำเสนอพยานบุคคลเพิ่มเติมสามปาก คือ หลวงพ่อฟรานซิส แบตสัน (Reverend Francis Batson) ผู้พบศพเด็กหญิง และแพทย์สองคนซึ่งชันสูตรศพเด็กหญิง ศาลอนุญาตให้ถกกันเรื่องความเป็นไปได้ที่จะมีการข่มขืนกระทำชำเรา แม้ว่ารายงานการชันสูตรศพระบุชัดเจนว่า เรื่องนี้ไม่มีพยานหลักฐานรับรอง ส่วนทนายความฝ่ายจำเลยกลับไม่นำเสนอพยานบุคคลสักปาก ไม่ถามค้านพยานโจทก์ และแทบจะไม่ต่อสู้การนำสืบของโจทก์เลย การไต่สวนใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่ง[4] คณะลูกขุนใช้เวลาอีก 10 นาทีประชุมกันแล้วลงมติว่า สตินนีย์มีความผิดตามฟ้อง ตุลาการจึงพิพากษาให้ประหารชีวิตเขาด้วยเก้าอี้ไฟฟ้า ไม่มีการบันทึกกระบวนพิจารณา และทนายความฝ่ายจำเลยไม่อุทธรณ์[5]

ครอบครัวสตินนีย์ขอให้โอลิน ดี. จอห์นสตัน (Olin D. Johnston) ผู้ว่าการเซาท์แคโรไลนา อภัยโทษสตินนีย์ เพราะอายุยังน้อย แต่คนอื่น ๆ เสนอให้ดำเนินการตามคำพิพากษา ซึ่งจอห์นสตันปฏิบัติตาม[10] จอห์นสตันกล่าวแก่ผู้ขออภัยโทษให้สตินนีย์ว่า "คุณอาจสนใจที่จะรู้ว่า สตินนีย์ฆ่าเด็กหญิงคนน้องเพื่อข่มขืนคนพี่ จากนั้นก็ฆ่าคนพี่แล้วข่มขืนศพเธอ 20 นาทีต่อมา เขาหวนกลับมาแล้วพยายามข่มขืนเธออีก แต่ศพแข็งทื่อไปแล้ว เรื่องทั้งหมดนี้เขายอมรับเอง" (It may be interesting for you to know that Stinney killed the smaller girl to rape the larger one. Then he killed the larger girl and raped her dead body. Twenty minutes later he returned and attempted to rape her again, but her body was too cold. All of this he admitted himself.) แต่การกล่าวอ้างดังกล่าวขัดกับรายงานการชันสูตร[4]

ตั้งแต่สตินนีย์ถูกจับไปจนถึงถูกประหาร เขาได้รับอนุญาตให้พบหน้าบิดามารดาเพียงครั้งเดียว คือ ที่เรือนจำโคลัมเบียหลังการพิจารณาสิ้นสุดลงแล้ว[4]

แหล่งที่มา

WikiPedia: จอร์จ สตินนีย์ http://www.bustle.com/articles/54488-the-youngest-... http://www.cnn.com/2014/01/21/us/george-stinney-he... http://www.goupstate.com/article/20100118/ARTICLES... http://www.postandcourier.com/article/20140117/PC1... http://www.wistv.com/story/27651255/george-stinney... https://books.google.com/books?id=5YdF1MePkfoC&pg=... https://books.google.com/books?id=Tn_BF2ggwAUC https://news.google.com/newspapers?nid=1499&dat=19... https://news.google.com/newspapers?nid=888&dat=194... https://www.nytimes.com/2014/12/22/opinion/charles...